แพ็กเกจ Gastric Balloon ใส่บอลลูนในกระเพาะอาหาร
การใส่ลูก Gastric Balloon ในกระเพาะอาหาร เป็นการลดน้ำหนัก โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องงดอาหาร ไม่ต้องพึ่งยา โปรโมชั่น 10 ท่านแรก รับส่วนลดเพิ่ม 10000 บาท
169,000 บาท / ชุด
การทำ Gastric Balloon หรือ การใส่ลูก Gastric Balloon ในกระเพาะอาหาร
การลดน้ำหนักมีหลายวิธี บางคนคุมอาหาร บางคนเลือกกินยาลดความอ้วน บางคนเน้นการออกกำลังกาย แต่ถ้าไม่สามารถลดน้ำหนักได้ การใส่บอลลูนในกระเพาะอาหาร ก็เป็นหนึ่งในวิธีการลดน้ำหนักที่น่าสนใจและมีการใช้แพร่หลายในปัจจุบัน
การใส่บอลลูน คือ การใส่ลูกบอลลูนที่บรรจุน้ำเข้าไปแทนที่ปริมาตรในกระเพาะอาหาร เพื่อลดปริมาณเนื้อที่ในกระเพาะอาหารที่เหลือ ทำให้ทานอาหารได้น้อยลง สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคได้อย่างที่ต้องการ และมีน้ำหนักลดลงในที่สุด
คนไข้ที่เหมาะกับการใส่บอลลูนในกระเพาะอาหาร
คือคนไข้ที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐาน คำนวณจากค่าดัชนีมวลกาย (Body Mass Index หรือ BMI) มากกว่า 27 โดยบอลลูนนี้จะถูกใส่ไว้เพียงชั่วคราวและเอาออกหลังจากใส่ 6 เดือนถึง 1 ปี แต่หากมีน้ำหนักที่ลดลงตามความต้องการแล้ว ก็สามารถนำบอลลูนออกได้ตามเวลาที่คนไข้ต้องการ โดยวิธีเอาบอลลูนออกโดยการปล่อยน้ำในลูกบอลลูนออก และส่องกล้องเพื่อนำลูกบอลลูนออกจากร่างกาย
ผลลัพธ์ที่ได้จาก การลดน้ำหนักด้วยบอลลูน
จะทำให้รู้สึกอิ่มเร็ว อิ่มนาน หรืออาจจะอิ่มตลอดเวลา ทำให้ทานได้น้อย สามารถลดน้ำหนักได้ถึง 15-20 กิโลกรัม ในเวลา 1 ปี
ข้อห้ามของการใส่บอลลูนในกระเพาะอาหาร
คือคนไข้ตั้งครรภ์ คนไข้มีภาวะเลือดออกผิกปกติ และคนไข้ที่มีแผลในกระเพาะอาหาร ดังนั้นก่อนใส่ทุกครั้งแพทย์จะมีการส่องกล้องสำรวจกระเพาะอาหารว่าปกติดี สามารถใส่ลูกบอลลูนได้หรือไม่
วิธีการใส่บอลลูนทำได้โดยไม่ยาก
เพียงงดน้ำงดอาหารอย่างน้อย 8 ชั่วโมง ให้คนไข้หลับโดยหมอดมยา ใส่บอลลูนเข้าไปทางหลอดอาหารพร้อมการส่องกล้อง ลงไปจนถึงกระเพาะอาหาร แล้ววางบอลลูนลงไปในตำแหน่งที่เหมาะสม เติมน้ำเข้าไปให้บอลลูนขยายตัวในกระเพาะ ประมาณ 400-500 CC ขึ้นกับการประเมินของแพทย์ผู้ใส่ จากนั้น บอลลูนจะลอยอย่างอิสระในกระเพาะอาหาร จำกัดปริมาณอาหารที่เราทาน ทำให้รู้สึกอิ่ม
อาการและผลข้างเคียงหลังคนไข้ใส่บอลลูน
ผลข้างเคียงเบื้องต้นหลังใส่ที่พบได้บ่อยคืออาการคลื่นไส้อาเจียน ส่วนผลข้างเคียงที่พบรองลงมาคือ ท้องอืด แน่นท้อง โคยผู้ป่วยจะมีอาการคลื่นไส้อาเจียนท้องอืดแน่นท้องมาก ในสัปดาห์แรก โดยทางแพทย์และทีมดูแล จะมีการรักษาแบบประคับประคอง ปรับการกินอาหารและมีการให้ยาแก้คลื่นไส้อาเจียนในช่วงแรก หลังจากสัปดาห์แรกคนไข้จะมีอาการแก้คลื่นไส้อาเจียนลดลงเริ่มกินอาหารได้และสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
การปฏิบัติตัวของคนไข้หลังใส่บอลลูนจำเป็นจะต้องมีการคุมอาหารที่เหมาะสม กินอาหารให้ครบตามหลักโภชนาการ การได้รับวิตามินเสริมบางตัวและการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการลดน้ำหนัก