033-038-888

ปัจจัยเสี่ยงโรคหัวใจ

(ศูนย์หัวใจและหลอดเลือด) ผู้เขียนบทความ : ผู้ดูแล

ปัจจัยเสี่ยงโรคหัวใจ

                   ประเทศไทยพบแนวโน้มผู้ป่วยโรคหัวใจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเกิดจากปัจจัย ทั้งที่ควบคุมไม่ได้ เช่น เพศ อายุ กรรมพันธุ์   และปัจจัยที่สามารถควบคุมได้ เช่น พฤติกรรมการรับประทานอาหาร และการออกกำลังกาย  แม้โรคหัวใจจะเป็นอันตรายถึงกับชีวิต แต่ก็สามารถป้องกันได้โดยการปรับพฤติกรรมที่ทำให้เกิดความเสี่ยงโรคหัวใจ และเข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปีสม่ำเสมอ

ปัจจัยเสี่ยงโรคหัวใจ

  • อายุที่มากขึ้น อวัยวะต่างๆ ย่อมเสื่อมไปตามสภาพ
  • เพศชายมีโอกาสเป็นโรคหัวใจได้มากกว่าเพศหญิง
  • ผู้ที่เป็นเบาหวานจะเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ 2-4 เท่า
  • ความดันโลหิตสูง ความดันโลหิตที่มากกว่า 140/90 มม./ปรอท จะเพิ่มความเสี่ยงมากขึ้น  ผู้ที่มีความดันโลหิตสูงตั้งแต่อายุน้อยกว่า 50 ปี จะเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจมากกว่าคนปกติ
  • ไขมันในเลือดสูง

              ภาวะอ้วน ในผู้หญิงที่มีค่าดัชนีมวลกาย (BMI)  มากกว่า 23  จะมีผลต่อสุขภาพหัวใจ   และหาก BMI มากกว่า 30 แสดงว่าคุณเป็นโรคอ้วน และมีความเสี่ยงสูงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ

การวัดรอบเอวจะช่วยให้ทราบความเสี่ยงของโรคหัวใจได้

    ►  ผู้หญิง- เอเชีย  ที่มีรอบเอวมากกว่า 32 นิ้ว (80ซม.)   ผู้ชาย - เอเชีย รอบเอวมากกว่า 35 นิ้ว (90 ซม.) มีความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจเพิ่มขึ้น

              อาหารไขมันสูง ในอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง เช่น   เนื้อวัวติดมัน เนื้อแกะ เนื้อหมู (รวมถึงเบคอนและแฮม) เนื้อไก่ที่มีหนัง ไขมันวัว (tallow) น้ำมันหมู ครีม เนย ชีส และผลิตภัณฑ์จากนมไขมันเต็มส่วน หรือพร่องมันเนย   เป็นสาเหตุของโรคหัวใจประมาณ 31 %  ในประชากรโลก

  • พันธุกรรม หากพบว่าในครอบครัวสายตรงที่มี ผู้ชายอายุน้อยกว่า 55 ปี หรือผู้หญิงอายุน้อยกว่า 65 ปี เป็นโรคหัวใจ เท่ากับคุณจะมีความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจได้มากกว่าคนทั่วไป
  • การสูบบุหรี่  ผู้หญิงที่สูบบุหรี่มีความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจมากกว่าผู้ชายที่สูบบุหรี่   และความเสี่ยงจะเพิ่มมากขึ้นอีกเท่าตัว ในผู้หญิงที่สูบบุหรี่ 3-5 มวน/วัน  และในผู้ชายที่สูบบุหรี่ 6-9 มวน/วัน   การสูบบุหรี่เพิ่มอัตราการตายจากโรคหัวใจถึง 300 %

 

อาการ ที่ควรนึกถึงโรคหัวใจ

1. เจ็บหน้าอก    อาการเจ็บแน่นหน้าอก 3 ลักษณะที่พึงสังเกตว่าจะเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด

  • เจ็บแน่นหน้าอกตรงกลางเหมือนมีอะไรมาทับ ร้าวไปที่กราม แขน ไหล่ หรือลิ้นปี่
  • เจ็บแน่นหน้าอกที่สัมพันธ์กับการออกแรง หรือออกกำลังกาย
  • อาการเจ็บแน่นหน้าอกดีขึ้นเมื่อนั่งพัก หรือเมื่ออมยาขยายหลอดเลือดใต้ลิ้น

2. ใจสั่น  หัวใจเต้นเร็ว

             หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ ผิดจังหวะ หรือเต้นไม่สม่ำเสมอ อาจพบได้ในคนปกติ โรคหัวใจ หรือโรคอื่นๆ เช่น ไทรอยด์เป็นพิษ โรคปอด เป็นต้น

3. อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย

4. ขาบวม               

5.อาการวูบ หรือหน้ามืด

                     หากมีอาการข้างต้น ให้คิดไว้เสมอว่าอาจมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคหัวใจค่อนข้างชัดเจน   แพทย์จะส่งตรวจเพื่อวินิจฉัยโรคหัวใจ และทำการรักษาต่อไป  ควรมาตรวจคัดกรอง  เพื่อให้แน่ใจว่ามีปัญหาโรคหัวใจหรือไม่ กับแพทย์เฉพาะทางโรคหัวใจ

  ► ปรึกษาแพทย์ออนไลน์ หรือ โทร 096-9173851

ข้อมูลจาก  www.samitivejhospital.com





doctor icon
แนะนำแพทย์ ประจำศูนย์