033-038-888

ผ่าตัดกระเพาะแล้วกลับมาอ้วนได้ไหม ? วิธีป้องกันโยโย่ให้ได้ผล

(คลินิกลดน้ำหนัก ให้บริการผ่าตัดกระเพาะลดความอ้วน) ผู้เขียนบทความ : ผู้ดูแล

ผ่าตัดกระเพาะแล้วกลับมาอ้วนได้ไหม ? วิธีป้องกันโยโย่ให้ได้ผล

การผ่าตัดกระเพาะเพื่อลดน้ำหนัก เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่มีปัญหาโรคอ้วนซึ่งไม่สามารถควบคุมน้ำหนักด้วยวิธีอื่นได้ผล แต่หลายคนอาจกังวลว่าหลังผ่าตัดกระเพาะแล้วจะกลับมาอ้วน หรือที่เรียกว่าโยโย่ได้หรือไม่ และการดูแลตัวเองหลังผ่าตัดกระเพาะควรทำอย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดอาการโยโย่ บทความนี้มีคำตอบ

การผ่าตัดกระเพาะคืออะไร ?

การผ่าตัดกระเพาะเพื่อลดน้ำหนัก เป็นวิธีการผ่าตัดเพื่อลดขนาดกระเพาะอาหาร ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกอิ่มเร็วขึ้น รับประทานอาหารได้น้อยลง ส่งผลให้น้ำหนักลดลงอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการผ่าตัดกระเพาะนอกจากจะช่วยลดน้ำหนักแล้ว ยังช่วยควบคุมและบรรเทาโรคที่เกี่ยวข้องกับความอ้วน เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง และภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้นอีกด้วย

การผ่าตัดนี้มีหลายรูปแบบ เช่น การผ่าตัดกระเพาะแบบสลีฟ (Sleeve Gastrectomy) ที่ตัดกระเพาะบางส่วนออกเพื่อให้มีขนาดเล็กลง และการผ่าตัดบายพาสกระเพาะอาหาร (Gastric Bypass) ที่เปลี่ยนเส้นทางการไหลของอาหารในระบบทางเดินอาหาร ทำให้รับประทานได้น้อยลงและลดการดูดซึมอาหารบางส่วน ซึ่งแต่ละวิธีมีข้อดีและความเหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละรายแตกต่างกัน

ผ่าตัดกระเพาะโยโย่ไหม ทำไมบางคนถึงกลับมาอ้วนหลังผ่าตัดกระเพาะ ?

หลายคนถามว่าผ่าตัดกระเพาะแล้วกลับมาอ้วนได้หรือไม่ คำตอบคือ เป็นไปได้หากไม่ดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม เพราะแม้ว่าการผ่าตัดกระเพาะจะเป็นวิธีที่ได้ผลดีในการลดน้ำหนัก แต่ก็มีผู้ป่วยจำนวนหนึ่งที่กลับมามีน้ำหนักเพิ่มขึ้นหลังผ่าตัด ซึ่งมีสาเหตุหลายประการ ดังนี้

  • ไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำด้านโภชนาการของแพทย์อย่างเคร่งครัด : หลังผ่าตัด ผู้ป่วยจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารอย่างมาก หากไม่ทำตามคำแนะนำของแพทย์และนักโภชนาการ เช่น รับประทานอาหารหวานหรือของทอดมากเกินไป ก็อาจทำให้น้ำหนักกลับเพิ่มขึ้นได้
  • กลับไปมีพฤติกรรมการรับประทานอาหารแบบเดิม : บางคนอาจกลับไปมีพฤติกรรมการรับประทานแบบเดิมหลังผ่านไประยะหนึ่ง เช่น กินจุบจิบตลอดวัน กินอาหารที่มีแคลอรีสูง หรือดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลมาก
  • ขาดการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ : การออกกำลังกายเป็นส่วนสำคัญในการควบคุมน้ำหนักระยะยาว แม้ตัดกระเพาะแล้วแต่หากไม่มีกิจกรรมการออกกำลังกายที่เพียงพอ ร่างกายจะเผาผลาญพลังงานน้อยลง ส่งผลให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้
  • มีปัญหาด้านสุขภาพจิตที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการรับประทาน : ภาวะเครียด ซึมเศร้า หรือมีปัญหาการรับประทานแบบผิดปกติ (Eating Disorders) อาจส่งผลให้ผู้ป่วยกลับไปพึ่งพาอาหารเพื่อบรรเทาความรู้สึกทางลบ และทำให้น้ำหนักเพิ่มได้
  • การเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาของร่างกาย : หลังผ่าตัด กระเพาะอาหารอาจขยายขนาดได้บ้างเมื่อเวลาผ่านไป ทำให้สามารถรับอาหารได้มากขึ้น นอกจากนี้ ร่างกายยังมีการปรับตัวทางเมตาบอลิซึมทำให้เผาผลาญพลังงานได้น้อยลง ซึ่งอาจทำให้น้ำหนักเพิ่มได้เช่นกัน
  • ขาดการติดตามผลและพบแพทย์อย่างต่อเนื่อง : การไม่ไปตรวจติดตามผลตามนัดหมายของแพทย์ จะทำให้ขาดการปรับเปลี่ยนแผนการดูแลตัวเองที่เหมาะสม ซึ่งนำไปสู่พฤติกรรมที่ทำให้กลับมาน้ำหนักเพิ่มได้ 

วิธีป้องกันการกลับมาอ้วนหลังผ่าตัดกระเพาะ

ติดตามการรักษาและพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอ

การพบแพทย์ตามนัดเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะแพทย์จะสามารถติดตามน้ำหนักและสุขภาพโดยรวม ตลอดจนปรับแผนการรักษาให้เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย โดยแพทย์อาจตรวจวัดระดับวิตามินและแร่ธาตุในร่างกาย เพื่อป้องกันภาวะขาดสารอาหารที่อาจส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว

นอกจากนี้ การพบแพทย์ยังเป็นโอกาสที่ดีในการพูดคุยถึงปัญหาและอุปสรรคที่พบ เพื่อหาทางแก้ไขก่อนที่จะกลายเป็นปัญหาใหญ่

รับประทานอาหารตามที่แพทย์แนะนำ ทั้งชนิดและปริมาณ

หลังผ่าตัดกระเพาะ การเลือกรับประทานอาหารที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญมาก โดยควรปฏิบัติตามแผนโภชนาการที่ได้รับจากแพทย์และนักโภชนาการอย่างเคร่งครัด และปฏิบัติตามคำแนะนำในการรับประทานอาหารเหล่านี้ เช่น

  • รับประทานอาหารโปรตีนคุณภาพดีก่อนอาหารประเภทอื่น เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็น
  • เคี้ยวอาหารช้า ๆ และรับประทานในปริมาณน้อยแต่บ่อยครั้ง
  • หลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูง รวมถึงอาหารแปรรูป
  • ไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแคลอรีสูง เช่น น้ำอัดลม น้ำผลไม้ที่มีน้ำตาล
  • แยกการดื่มน้ำและการรับประทานอาหาร เพื่อไม่ให้กระเพาะเต็มเร็วเกินไป

ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม และสม่ำเสมอ

การออกกำลังกาย เป็นส่วนสำคัญในการรักษาน้ำหนักที่ลดลง และป้องกันการกลับมาอ้วนซ้ำ ควรเริ่มจากการออกกำลังกายเบา ๆ ก่อน เช่น การเดิน และค่อย ๆ เพิ่มความเข้มข้นในการออกกำลังกายเมื่อร่างกายพร้อม

โดยควรออกกำลังกายอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ หรืออย่างน้อยวันละ 30 นาที โดยผสมผสานทั้งการออกกำลังกายแบบแอโรบิกและการฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ เนื่องจากการมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงจะช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย และทำให้สามารถควบคุมน้ำหนักได้ดียิ่งขึ้น

สำหรับใครที่ต้องการสร้างนิสัยในการออกกำลังกาย การหากิจกรรมที่สนุกและชื่นชอบจะช่วยให้สามารถออกกำลังกายได้อย่างต่อเนื่อง เช่น การเต้น ว่ายน้ำ หรือการเล่นกีฬาเป็นทีม

เข้าร่วมกลุ่มให้คำปรึกษาหรือพบนักจิตวิทยาเพื่อปรับพฤติกรรม

การมีระบบสนับสนุนทางจิตใจ เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการรักษาน้ำหนักในระยะยาว หากมีปัญหาด้านสุขภาพจิต เช่น ภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล หรือมีความรู้สึกที่ไม่ดีกับอาหาร ควรพบนักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์เพื่อรับการบำบัด เพื่อช่วยปรับเปลี่ยนความคิดและพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับการรับประทานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนั้น การเข้าร่วมกลุ่มให้คำปรึกษาหรือกลุ่มสนับสนุนสำหรับผู้ที่ผ่านการผ่าตัดกระเพาะ จะช่วยให้ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ปัญหา และวิธีแก้ไข กับผู้ที่มีประสบการณ์คล้ายกันด้วย

 

ป้องกันการโยโย่หลังผ่าตัดกระเพาะได้ด้วยการทานอาหารอย่างเหมาะสมและออกกำลังกายสม่ำเสมอ

 

ผลลัพธ์ที่ควรคาดหวังหลังผ่าตัดกระเพาะ

  • น้ำหนักลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วง 1-2 ปีแรก : โดยทั่วไป ผู้ป่วยจะสามารถลดน้ำหนักได้ประมาณ 60-80% ของน้ำหนักส่วนเกิน ภายในระยะเวลา 1-2 ปีหลังการผ่าตัด การลดน้ำหนักจะเห็นผลชัดเจนในช่วง 6 เดือนแรก และจะค่อย ๆ ช้าลงหลังจากนั้น
  • สุขภาพโดยรวมดีขึ้น โรคร่วมต่าง ๆ ดีขึ้น : หลังผ่าตัดกระเพาะ บางคนอาจพบว่าโรคที่เกี่ยวข้องกับความอ้วนดีขึ้นหรือหายไป เช่น เบาหวานชนิดที่ 2 ความดันโลหิตสูง ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ และภาวะไขมันในเลือดสูง ทำให้ลดการใช้ยาลงได้ พร้อมทั้งลดความเสี่ยงต่อโรคแทรกซ้อนในระยะยาว
  • คุณภาพชีวิตดีขึ้น : การเคลื่อนไหวร่างกายทำได้สะดวกขึ้น ปวดข้อน้อยลง นอนหลับได้ดีขึ้น และมีพลังงานมากขึ้นในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน
  • ความมั่นใจในตัวเองเพิ่มขึ้น : การมีรูปร่างที่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ส่งผลดีต่อความรู้สึกมั่นใจในตัวเอง ทำให้มีบุคลิกและภาพลักษณ์ที่ดี รวมไปถึงความสัมพันธ์กับคนรอบข้างด้วย

อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ของการผ่าตัดในแต่ละบุคคลอาจแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุ เพศ ดัชนีมวลกายก่อนผ่าตัด และความร่วมมือในการปฏิบัติตามคำแนะนำหลังผ่าตัด

การดูแลตัวเองระยะยาวหลังผ่าตัดกระเพาะ

รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่

แม้ว่ากระเพาะจะมีขนาดเล็กลง แต่ร่างกายยังคงต้องการสารอาหารครบถ้วนเพื่อการทำงานที่เหมาะสม ควรเลือกรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ได้แก่

  • โปรตีนคุณภาพดี เช่น เนื้อปลา เนื้อไก่ไม่ติดหนัง ไข่ขาว และถั่วชนิดต่าง ๆ
  • ผักหลากหลายชนิด โดยเฉพาะผักใบเขียว
  • ผลไม้ที่มีน้ำตาลต่ำ ในปริมาณที่เหมาะสม
  • ธัญพืชไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีต
  • ไขมันดี เช่น น้ำมันมะกอก อะโวคาโด ถั่ว และเมล็ดพืช

นอกจากนั้น ควรรับประทานอาหารในปริมาณน้อยแต่บ่อยครั้งต่อวัน แทนที่จะรับประทานในปริมาณมากต่อหนึ่งมื้อ และเคี้ยวอาหารให้ละเอียดก่อนกลืน

หลีกเลี่ยงอาหารหวาน มัน และแอลกอฮอล์

อาหารและเครื่องดื่มที่ควรหลีกเลี่ยงหลังการผ่าตัดกระเพาะ ได้แก่

  • อาหารหวาน : น้ำตาล ขนมหวาน ไอศกรีม และเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการดัมปิงซินโดรม (Dumping Syndrome) คือมีอาการคลื่นไส้ ใจสั่น เหงื่อออก หลังรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลสูง
  • อาหารมัน : อาหารทอด อาหารจานด่วน และอาหารแปรรูปที่มีไขมันสูง ซึ่งให้พลังงานสูงแต่คุณค่าทางโภชนาการต่ำ
  • แอลกอฮอล์ : เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการ และร่างกายดูดซึมได้เร็วขึ้นหลังผ่าตัด ทำให้เมาง่าย นอกจากนี้ยังมีผลต่อตับและอาจเกิดปฏิกิริยากับยาที่ได้รับ

ดื่มน้ำให้เพียงพอ

การดื่มน้ำอย่างเพียงพอ มีความสำคัญมากหลังการผ่าตัดกระเพาะ แต่ควรแยกการดื่มน้ำกับการรับประทานอาหาร โดยงดดื่มน้ำก่อนรับประทานอาหาร 30 นาที และหลังรับประทานอาหาร 30-60 นาที เพื่อไม่ให้น้ำไปแทนที่อาหารในกระเพาะ

โดยควรดื่มน้ำสะอาดประมาณ 1.5-2 ลิตรต่อวัน และดื่มทีละน้อยแต่บ่อยครั้ง หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำอัดลม เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน และเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล

ตรวจแร่ธาตุและวิตามินในร่างกายอย่างสม่ำเสมอ

หลังการผ่าตัดกระเพาะ ร่างกายอาจดูดซึมวิตามินและแร่ธาตุได้น้อยลง จึงมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะขาดสารอาหาร จึงควรตรวจระดับวิตามินและแร่ธาตุในเลือดเป็นประจำ โดยเฉพาะวิตามินบี 12, วิตามินดี, แคลเซียม, เหล็ก, โฟเลต และโปรตีน ซึ่งแพทย์จะแนะนำให้รับประทานวิตามินและแร่ธาตุเสริมตามความจำเป็น ซึ่งการรับประทานอย่างสม่ำเสมอจะช่วยป้องกันภาวะขาดสารอาหารที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว

ทีมแพทย์ที่ New You Clinic By Samitivej Chonburi พร้อมให้คำปรึกษาและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมสำหรับคุณ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและยั่งยืน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและนัดปรึกษาแพทย์หรือสอบถามราคาผ่าตัดกระเพาะอาหารที่โรงพยาบาลสมิติเวชชลบุรี ได้ที่ โทร. 033-038888 หรือ LINE: @dr.samitchon (มี @ ด้วย)

ข้อมูลอ้างอิง

Sleeve Weight Regain. สืบค้นเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2567 จาก https://www.uclahealth.org/medical-services/surgery/bariatrics/obesity-treatments/sleeve-weight-regain





สอบถามข้อมูล
กรุณากรอกฟอร์มให้ครบถ้วน
ทางโรงพยาบาลจะติดต่อกลับภายใน 48 ชั่วโมง

icon-articleบทความประจำศูนย์

ดูทั้งหมด