033-038-888

อาการ ‘กินเยอะผิดปกติ’ พฤติกรรมต้องระวังที่ควรใส่ใจ !

(คลินิกลดน้ำหนัก ให้บริการผ่าตัดกระเพาะลดความอ้วน) ผู้เขียนบทความ : ผู้ดูแล

อาการ ‘กินเยอะผิดปกติ’ พฤติกรรมต้องระวังที่ควรใส่ใจ !

ไม่หิวแต่กลับไม่สามารถควบคุมความอยากอาหารได้ ! หนึ่งในพฤติกรรมที่หลายคนอาจเคยประสบ ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพและอาจเป็นสัญญาณของปัญหาที่ควรได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด 

กินเยอะผิดปกติ พฤติกรรมต้องระวัง !

พฤติกรรมการกินเยอะผิดปกติ หรือภาวะ “Binge Eating Disorder” คือการกินอาหารเยอะเกินไปโดยไม่สามารถควบคุมตนเองได้ แม้จะรู้สึกอิ่มแล้วก็ตาม ซึ่งแตกต่างจากการกินเยอะที่เกิดจากความหิวตามธรรมชาติ เนื่องจากไม่มีปัจจัยเรื่องความต้องการพลังงานของร่างกายเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยอาจเกิดขึ้นเป็นครั้งคราวในบางสถานการณ์ เช่น ความเครียด ความวิตกกังวล หรืออารมณ์เศร้า แต่หากเกิดขึ้นประจำโดยไม่ได้รับการแก้ไขหรือจัดการอย่างเหมาะสม ในระยะยาวก็อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่รุนแรงในอนาคต

อาการของโรคกินไม่หยุด

อาการของโรคกินไม่หยุด เป็นภาวะที่มีผลกระทบทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ซึ่งหากสังเกตได้ถึงพฤติกรรมเหล่านี้ ควรพิจารณาขอคำปรึกษาจากแพทย์ หรือนักโภชนาการ เพื่อหาทางแก้ไขและป้องกันปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยอาการหลักที่พบบ่อย ได้แก่

  • กินอาหารเยอะเกินไปในปริมาณมากกว่าปกติ แม้ไม่รู้สึกหิว
  • หยุดกินไม่ได้แม้จะอิ่มแล้วก็ตาม
  • กินอาหารปริมาณมากอย่างรวดเร็วในระยะเวลาไม่นาน
  • มักรู้สึกผิด เศร้า โกรธ ละอายใจ หรือโทษตนเองที่กินมากเกินไป

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการกินอาหารเยอะเกินไป

การกินอาหารในปริมาณมากเกินไป ซึ่งเกิดจากโรคกินไม่หยุด ไม่เพียงทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อระบบในร่างกาย รวมถึงสภาวะทางอารมณ์และจิตใจ

สุขภาพกาย

พฤติกรรมการกินเยอะผิดปกติส่งผลต่อระบบเผาผลาญ ทำให้ร่างกายต้องรับภาระหนักขึ้นในการจัดการกับพลังงานส่วนเกิน ผลลัพธ์ที่ตามมามักเป็นโรคเรื้อรังและภาวะทางสุขภาพ เช่น

  • โรคอ้วน โดยเมื่อร่างกายได้รับพลังงานมากกว่าที่ใช้ในแต่ละวัน ไขมันส่วนเกินจะสะสมตามอวัยวะ ทำให้ดัชนีมวลกาย (BMI) สูงขึ้นจนเข้าสู่ภาวะโรคอ้วน ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ
  • เบาหวานชนิดที่ 2 ซึ่งเกิดจากการกินอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลสูง เช่น อาหารฟาสต์ฟูด ขนมปังขาว ขนมหวาน ในปริมาณมากเกินไป 
  • ความดันโลหิตสูง จากการกินอาหารที่มีไขมันและโซเดียมสูง ทำให้ร่างกายกักเก็บน้ำมากขึ้น ส่งผลให้หลอดเลือดขยายตัวและเพิ่มแรงดันโลหิต
  • ปัญหาระบบทางเดินอาหาร เนื่องจากการกินอาหารเยอะเกินไปทำให้ระบบทางเดินอาหารต้องทำงานหนักขึ้น ซึ่งผลที่ตามมาคือการเกิดภาวะอาหารไม่ย่อย ท้องอืด กรดไหลย้อน หรือภาวะลำไส้แปรปรวน

สุขภาพจิต

ไม่เพียงแค่สุขภาพกายเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบจากการกินเยอะผิดปกติ สุขภาพจิตก็ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงเช่นกัน โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีพฤติกรรมการกินที่ควบคุมไม่ได้ หรือกินอาหารเพื่อระบายความเครียด ทำให้เกิดความรู้สึกหรือภาวะต่าง ๆ เช่น 

  • รู้สึกผิด หรืออับอายเกี่ยวกับรูปร่างของตัวเอง ซึ่งส่งผลให้หลายคนตกอยู่ในวงจรของการกินเยอะเกินไปจนทำให้รู้สึกผิด แต่เมื่อพยายามควบคุมอาหารก็ต้องกลับมากินเยอะอีกครั้ง ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่พบได้บ่อยในกลุ่มที่มีปัญหาเรื่องน้ำหนักตัว
  • ภาวะซึมเศร้าและความเครียด บางคนใช้การกินในการจัดการกับความเครียด หรือความรู้สึกด้านลบ เมื่อพฤติกรรมนี้กลายเป็นนิสัย อาจทำให้สมองสร้างวงจรที่เชื่อมโยงระหว่าง “การกิน” กับ “ความรู้สึกดี” ซึ่งอาจเป็นอันตรายในระยะยาว

 

ปรับพฤติกรรมการกินให้เหมาะสม เพื่อรับมือกับการกินเยอะผิดปกติ

 

วิธีการรับมือและป้องกัน

จะเห็นได้ว่าพฤติกรรมการกินเยอะผิดปกติส่งผลต่อสุขภาพทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจอย่างมาก ดังนั้น การเรียนรู้วิธีรับมือและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างถูกต้องจะสามารถช่วยลดความเสี่ยงของภาวะนี้ได้

ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน

การปรับพฤติกรรมการกินถือเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการลดปัญหาการกินเยอะผิดปกติ เพราะช่วยให้ร่างกายมีความสมดุลในการรับพลังงาน ลดโอกาสเกิดพฤติกรรมการกินแบบควบคุมไม่ได้ โดยสามารถทำได้ง่ายในชีวิตประจำวัน เช่น

  • กินอาหารให้ตรงเวลา ไม่ปล่อยให้หิวจัดจนกระตุ้นการกินมากเกินไป
  • ใช้จานเล็กเพื่อลดปริมาณอาหารต่อมื้อ
  • เคี้ยวอาหารช้า ๆ เพื่อให้สมองรับรู้สัญญาณอิ่มได้เร็วขึ้น
  • หลีกเลี่ยงการกินตามอารมณ์ เช่น กินเมื่อเครียด หรือเมื่อรู้สึกเศร้า

จัดการความเครียด

ความเครียด เป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้หลายคนกินอาหารเยอะผิดปกติ เมื่อร่างกายอยู่ภายใต้ความเครียด ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งสามารถกระตุ้นให้เกิดความอยากอาหารที่มีแคลอรีสูง การจัดการความเครียดจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อลดโอกาสเกิดพฤติกรรมการกินที่ไม่สามารถควบคุมได้ โดยมีวิธีจัดการความเครียดในระดับเบื้องต้นได้ เช่น

  • ฝึกเทคนิคการผ่อนคลาย เช่น การทำสมาธิ หรือโยคะ
  • หากรู้สึกเครียด ควรหาทางระบาย เช่น การพูดคุยกับเพื่อนหรือครอบครัว

ออกกำลังกาย

การออกกำลังกายไม่เพียงแต่ช่วยลดน้ำหนัก แต่ยังช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับความหิว โดยสามารถช่วยลดระดับฮอร์โมนความเครียดและเพิ่มสารเอ็นโดรฟิน (Endorphine) ที่ช่วยให้อารมณ์ดีขึ้น ซึ่งเมื่อรู้สึกดี ความอยากอาหารจากอารมณ์ด้านลบจะลดลงไปด้วย สำหรับผู้ที่ไม่ชอบการออกกำลังกาย อาจลองหากิจกรรมที่ทำให้รู้สึกสนุกและอยากทำเป็นประจำ เช่น การเดินเร็ว ว่ายน้ำ เต้นแอโรบิก หรือโยคะ ซึ่งจะช่วยให้สามารถออกกำลังกายได้อย่างต่อเนื่องและมีความสุขไปด้วยได้

 

New You Clinic By Samitivej Chonburi พร้อมช่วยดูแลสุขภาพ

สำหรับผู้ที่มีปัญหาน้ำหนักเกินและพฤติกรรมการกินที่ไม่สามารถควบคุมได้ด้วยวิธีทั่วไป การตัดกระเพาะอาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม ซึ่งจะช่วยลดปริมาณอาหารที่กินได้ในแต่ละครั้ง อีกทั้งยังช่วยลดน้ำหนักอย่างมีประสิทธิภาพ New You Clinic By Samitivej Chonburi พร้อมให้การดูแลอย่างครอบคลุม

  • ทีมแพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมลดน้ำหนัก
  • การดูแลแบบองค์รวม ทั้งด้านโภชนาการและสุขภาพจิต
  • เทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อการรักษาที่ดูแลให้ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

การตัดกระเพาะลดความอ้วนเป็นการรักษาที่ต้องได้รับการประเมินและดูแลโดยแพทย์ผู้ชำนาญการด้านการผ่าตัดเพื่อลดน้ำหนักและโภชนาการโดยเฉพาะ ซึ่งที่ New You Clinic By Samitivej Chonburi พร้อมให้คำปรึกษาและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมสำหรับคุณ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและยั่งยืน 

สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือนัดปรึกษาแพทย์โรงพยาบาลสมิติเวชชลบุรี ได้ที่ โทร. 033-038888 หรือ LINE: @dr.samitchon (มี @ ด้วย)

 

ข้อมูลอ้างอิง:

  1. Definition & Facts for Binge Eating Disorder. สืบค้นวันที่ 19 มีนาคม 2568 จาก https://www.niddk.nih.gov/health-information/weight-management/binge-eating-disorder/definition-facts 
     

 





สอบถามข้อมูล
กรุณากรอกฟอร์มให้ครบถ้วน
ทางโรงพยาบาลจะติดต่อกลับภายใน 48 ชั่วโมง

icon-articleบทความประจำศูนย์

ดูทั้งหมด