ไขคำตอบสุขภาพ การตรวจเลือดทำให้รู้อะไรบ้าง ?
(ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพ) ผู้เขียนบทความ : ผู้ดูแล

เช็กสุขภาพจากการเจาะเลือด ! ตรวจเลือดหาโรคอะไรได้บ้าง ?
การตรวจเลือด เป็นหนึ่งในวิธีตรวจสุขภาพที่สำคัญและแพร่หลายที่สุด เนื่องจากการเจาะเลือดเพียงเล็กน้อยสามารถให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพได้มากมาย ตั้งแต่การตรวจสุขภาพทั่วไปจนถึงการวินิจฉัยโรคร้ายแรง ความสำคัญของการตรวจเลือดไม่เพียงอยู่ที่ความง่ายและรวดเร็ว แต่ยังรวมถึงความแม่นยำที่ช่วยให้แพทย์วินิจฉัยและวางแผนการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
เจาะลึก การตรวจเลือดทำให้รู้อะไรบ้าง ?
การตรวจเลือดเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เข้าใจสถานะสุขภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยสามารถบ่งบอกได้ดังนี้
สุขภาพโดยรวม
การตรวจเลือดช่วยประเมินภาพรวมของสุขภาพ โดยการตรวจเบื้องต้นทั่วไป ได้แก่ การตรวจระดับน้ำตาลในเลือด (Fasting Blood Sugar) และระดับไขมันในเลือด (Lipid Profile) เพื่อช่วยให้ทราบข้อมูลพื้นฐานและสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและวางแผนการดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสม
- ระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยวินิจฉัยโรคเบาหวานหรือภาวะก่อนเบาหวาน หากระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกินไป อาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ความผิดปกติของร่างกาย
- ไขมันในเลือด เป็นการตรวจระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ ช่วยประเมินความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงภาวะไขมันในเลือดสูง
การติดเชื้อ
การตรวจเลือดสามารถระบุการติดเชื้อในร่างกายได้อย่างแม่นยำ จึงสามารถป้องกันการแพร่ระบาดและเพิ่มโอกาสในการฟื้นตัวจากโรคติดเชื้อที่ร้ายแรงได้ โดยเฉพาะการติดเชื้อที่อาจไม่แสดงอาการชัดเจนในระยะแรก เช่น
- การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ โดยการตรวจหา HBsAg และ Anti-HCV ช่วยวินิจฉัยการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีและซี ซึ่งหากตรวจพบได้เร็วจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดตับแข็ง หรือมะเร็งตับ
- การติดเชื้อ HIV โดยการตรวจหาแอนติเจนและแอนติบอดีของเชื้อ HIV ช่วยให้เริ่มการรักษาได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ลดโอกาสการแพร่กระจายเชื้อ
ประเมินพฤติกรรมเสี่ยง
พฤติกรรมบางอย่าง เช่น การดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ หรือการรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์และขาดความสมดุล อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว การตรวจเลือดสามารถบ่งบอกผลกระทบเหล่านี้ เพื่อช่วยให้สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมก่อนที่ความเสียหายต่อร่างกายจะรุนแรงเกินแก้ไข
- การตรวจระดับเอนไซม์ตับ (Liver Function Test) ช่วยประเมินผลกระทบจากการดื่มแอลกอฮอล์หรือการใช้ยา ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะตับอักเสบ หรือตับแข็ง
- การตรวจระดับไขมันในเลือด ช่วยประเมินผลกระทบจากการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด
- การตรวจกรดยูริก ใช้ประเมินภาวะกรดยูริกสูงจากการรับประทานอาหารที่มีพิวรีนสูง เช่น เครื่องในสัตว์ และช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคเกาต์
ตรวจเลือดหาโรคอะไรได้บ้าง ?
การตรวจเลือด เป็นเครื่องมือสำคัญในการวินิจฉัยและติดตามโรคต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยโรคที่พบจากการตรวจเลือดจะขึ้นอยู่กับชนิดของการตรวจ และอาการของผู้ป่วย โดยสามารถช่วยในการวินิจฉัยโรคได้มากมาย เช่น
โรคเบาหวาน
โรคเบาหวานเป็นภาวะที่ระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ ซึ่งอาจเกิดจากการขาดอินซูลิน หรือการตอบสนองต่ออินซูลินที่ผิดปกติ ซึ่งการตรวจเลือดจะช่วยวินิจฉัยโรคเบาหวานตั้งแต่ระยะแรกเริ่ม เพื่อช่วยวางแผนการรักษาเพื่อควบคุมระดับน้ำตาล โดยการตรวจเลือดที่ใช้ในการวินิจฉัย ได้แก่
- การตรวจระดับน้ำตาลในเลือด (Fasting Blood Sugar) ใช้ตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดหลังอดอาหาร 8 ชั่วโมง หากค่าระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่า 126 มิลลิกรัม/เดซิลิตร จะถือว่าเข้าข่ายโรคเบาหวาน
- การตรวจฮีโมโกลบิน A1c (HbA1c) เป็นการตรวจที่สะท้อนระดับน้ำตาลเฉลี่ยในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ค่านี้ช่วยให้ทราบถึงการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดระยะยาว
โรคโลหิตจาง
ภาวะโลหิตจางเกิดจากการขาดเซลล์เม็ดเลือดแดงที่เพียงพอในการลำเลียงออกซิเจนไปยังเนื้อเยื่อภายในร่างกาย การตรวจเลือดสามารถบ่งบอกถึงภาวะโลหิตจางและสาเหตุได้ดังนี้
- การตรวจระดับฮีโมโกลบิน (Hemoglobin) ใช้วัดปริมาณโปรตีนในเม็ดเลือดแดงที่ทำหน้าที่ลำเลียงออกซิเจน
- การตรวจค่าความเข้มข้นของเม็ดเลือดแดง (Hematocrit) ช่วยระบุปริมาณเซลล์เม็ดเลือดแดงในเลือด
โรคไต
การทำงานของไตสามารถประเมินได้ผ่านการตรวจเลือด ซึ่งช่วยระบุโรคไตในระยะแรกเริ่ม หรือภาวะไตเสื่อม ทำให้สามารถวางแผนการรักษาเพื่อชะลอการเสื่อมของไตและป้องกันภาวะแทรกซ้อน ด้วยการตรวจ ดังต่อไปนี้
- การตรวจระดับครีเอตินิน (Creatinine) โดยครีเอตินินเป็นของเสียที่เกิดจากการทำงานของกล้ามเนื้อ ค่าที่สูงกว่าปกติอาจบ่งชี้ว่าไตไม่สามารถกรองของเสียได้ดี
- การตรวจระดับยูเรียไนโตรเจนในเลือด (BUN) ค่านี้ใช้ประเมินการทำงานของไตร่วมกับครีเอตินิน
โรคตับ
ตับ เป็นอวัยวะสำคัญที่ทำหน้าที่ขจัดสารพิษและผลิตเอนไซม์สำคัญ การตรวจเลือดช่วยระบุความผิดปกติของตับได้อย่างแม่นยำ ซึ่งจะช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพและลดภาวะตับแข็ง
- การตรวจเอนไซม์ตับ (Liver Enzyme Test) เช่น AST, ALT ซึ่งใช้ตรวจหาภาวะตับอักเสบจากไวรัส การดื่มแอลกอฮอล์ หรือการใช้ยา
- การตรวจ Bilirubin ใช้ตรวจวัดสารที่เกิดจากการสลายของเม็ดเลือดแดง ซึ่งหากค่าสูง อาจบ่งชี้ถึงการอุดตันของท่อน้ำดีหรือตับอักเสบ
โรคมะเร็ง
การตรวจสารบ่งชี้มะเร็ง (Tumor Markers) ช่วยเพิ่มโอกาสในการตรวจพบมะเร็งในระยะแรกเริ่ม ซึ่งจะสามารถเพิ่มโอกาสการรักษาให้สำเร็จและลดความรุนแรงของโรค ด้วยการตรวจหาสารบ่งชี้มะเร็งบางชนิด เช่น
- AFP (Alpha-fetoprotein) ใช้ตรวจหามะเร็งตับหรือความผิดปกติที่เกี่ยวข้อง
- CA-125 ใช้ตรวจหามะเร็งรังไข่
- PSA (Prostate-specific Antigen) ใช้ตรวจหามะเร็งต่อมลูกหมาก
การตรวจเลือดไม่เพียงมีประโยชน์ในการตรวจหาโรคเมื่อเกิดอาการผิดปกติแล้ว แต่ยังช่วยในการตรวจสุขภาพทั่วไปเพื่อประเมินความเสี่ยงในอนาคต การตรวจเลือดอย่างสม่ำเสมอช่วยให้สามารถเฝ้าระวังโรคและปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น โรคเรื้อรัง หรือการติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการ ซึ่งจะทำให้การรักษาเป็นไปได้ง่ายขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เตรียมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงและความเสื่อมถอยของร่างกายในแต่ละช่วงเวลา ด้วยแพ็กเกจตรวจสุขภาพกับโรงพยาบาลสมิติเวชชลบุรี ที่มีเครื่องมือทันสมัยและนวัตกรรมครบครัน
ปรึกษาเลือกซื้อแพ็กเกจตรวจสุขภาพและโปรโมชันโรงพยาบาลสมิติเวชชลบุรี ได้ที่เบอร์ 033-038888 หรือ LINE: @dr.samitchon (มี @ ด้วย)
ข้อมูลอ้างอิง:
ผลแลปจากการตรวจเลือดมีความหมายว่าอย่างไร. สืบค้นวันที่ 4 มกราคม 2568 จาก https://pharmacy.mahidol.ac.th/knowledge/files/0442.pdf